การสอนแบบโครงการ
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบโครงการเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภายใต้บรรยากาศที่เป็นมิตร
มีอิสระ เสรี
ให้เกียรติให้ความสำคัญแก่เด็กในฐานะคนๆหนึ่งที่มีสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน
สร้างความรู้สึกที่มั่นคง กล้าคิดกล้าแสดง กล้าลงมือทำ
ครูเป็นผู้คอยให้การสนับสนุนคอยช่วยเหลือเมื่อเด็กต้องการ
ครูจะไม่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ แต่จะเป็นผู้จัดสภาพแวดล้อมของห้องเรียนและเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่เอื้อให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมในเรื่องราวที่เป็นความสนใจและท้าทายความสามารถของเด็ก ให้โอกาสเด็กได้ค้นพบและเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงกับสิ่งของ เรื่องราว
สถานที่ บุคคลและเหตุการณ์ต่างๆภายในชุมชนของเด็ก ตามวิธีการของแต่ละบุคคล เปิดโอกาสให้เด็กได้ประเมินผลการทำงานของตนเอง
ได้เห็นพัฒนาการและความสำเร็จและล้มเหลวของตน ครูเป็นผู้ให้ข้อมูลย้อนกลับในทางบวกและคอยแนะนำช่วยเหลือให้เด็กได้ประสบผลสำเร็จในการทำกิจกรรม
ลักษณะสำคัญของการสอนแบบโครงการ
๑. เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่ใช้ร่วมกับระบบการสอนในหลักสูตรตามปกติ
โดยโอกาสที่ครูจะใช้รูปแบบการเรียนการสอนนี้จะเกิดขึ้นภายใต้สภาพการเรียนการสอนตามปกติ
เมื่อครูสังเกตเห็นว่าเด็กมีความสนใจในเรื่องหนึ่งเรื่องใดเป็นพิเศษ
และต้องการจะศึกษาเรื่องนั้นต่อไป
และครูพิจารณาว่าสามารถจัดกิจกรรมเพื่อศึกษาเรื่องนั้นได้และมีแหล่งทรัพยากรเพียงพอในการศึกษาเรื่องนั้น
๒. จุดเน้นสำคัญของการจัดการเรียนการสอนนี้มุ่งที่ความสนใจของเด็กเป็นหลักเพื่อให้เด็กมีโอกาสได้ศึกษาเรื่องที่ตนสนใจ
ในวิธีการของเด็กเอง ดังนั้นการสอนแบบโครงการไม่มีการวางแผนการสอนอย่างชัดเจนไว้ล่วงหน้า ครูผู้สอนคอยจะสังเกตจนพบความความสนใจของเด็ก
แล้วจึงจะสามารถร่วมกันวางแผนและกำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนร่วมกันกับเด็กขึ้นและจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการความสนใจของเด็ก
๓. แม้ว่าการสอนแบบโครงการจะมุ่งที่ความสนใจของเด็กเป็นรายบุคคล
แต่ในการเลือกหัวข้อของโครงการที่จะทำการศึกษานั้น
เด็กทั้งกลุ่มจะร่วมกันเลือกหัวข้อของโครงการร่วมกัน
ภายใต้กรอบความสนใจของเด็กส่วนใหญ่ในห้องเรียนและภายใต้การพิจารณาของครูว่าหัวข้อดังกล่าวสามารถเลือกเป็นหัวข้อโครงการได้หรือไม่
โดยครูพิจารณาเกณฑ์ในการเลือกหัวข้อของโครงการดังนี้
๑) เป็นหัวข้อที่เด็กทุกคนหรือเด็กส่วนใหญ่ของกลุ่มสนใจ
๒) มีแหล่งทรัพยากรในท้องถิ่นเพียงพอที่จะจัดกิจกรรมในหัวข้อโครงการนี้ได้
๓) เป็นหัวข้อที่เด็กพอจะมีประสบการณ์อยู่บ้างแล้ว
๔) เป็นหัวข้อที่เด็กสามารถใช้ประสบการณ์ตรงในการค้นหาข้อมูลข้อเท็จจริงได้
๕) เป็นเรื่องที่เป็นจริง สามารถให้เด็กมีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนั้นได้
๖) เป็นเรื่องที่เปิดโอกาสให้มีการร่วมมือกันทำงาน
๗)
เป็นเรื่องที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติ
สร้างสิ่งของหรือเล่นสมมุติ
๘)
เป็นหัวข้อที่มีความสัมพันธ์กับจุดประสงค์ของการเรียนการสอน
๙) เด็กมีโอกาสใช้ทักษะต่างๆในการเรียนรู้
๑๐) ผู้ปกครองมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการ
๔. การสอนแบบโครงการต้องการครูที่มีคุณลักษณะสำคัญอย่างยิ่งคือต้องเป็นผู้ที่ยอมรับเด็กโดยแท้
เชื่อมั่นว่าเด็กสามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตัวเด็กเอง
โดยครูจะต้องแสดงบทบาทผู้ฟังที่ดีให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความต้องการความสนใจของเด็กและจัดกิจกรรมตามความสนใจของเด็กอย่างแท้จริง
ต้องไม่แสดงบทบาทของผู้ถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็ก
ไม่เป็นผู้กำหนดกิจกรรมให้เด็กทำตามความคิดของครู
หลักการและแนวคิดสำคัญของการสอนแบบโครงการ
๑.
เด็กศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มลึกลงไปในรายละเอียดของเรื่องนั้น
ด้วยกระบวนการคิดและแก้ปัญหาของเด็กเองจนพบคำตอบที่ต้องการ
๒.
เรื่องที่ศึกษากำหนดโดยเด็กเอง
๓. ประเด็นที่ศึกษา เกิดจากข้อสงสัยหรือปัญหาของเด็กเอง
๔. เด็กได้มีประสบการณ์ตรงกับเรื่องที่ศึกษาโดยการสังเกตอย่างใกล้ชิดจากแหล่งความรู้เบื้องต้น
๕. ระยะเวลาการสอนยาวนานอย่างเพียงพอตามความสนใจของเด็ก
๖. เด็กได้ประสบทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จในการศึกษาตามกระบวนการแก้ปัญหา
ของเด็ก
๗. ความรู้ใหม่ที่ได้จากกระบวนการศึกษาและการแก้ปัญหาของเด็กเป็นสิ่งที่เด็กใช้กำหนดประเด็นศึกษาขึ้นใหม่
หรือใช้ปฏิบัติกิจกรรมที่เด็กต้องการ
๘. เด็กได้นำเสนอกระบวนการศึกษา และผลงานต่อคนอื่น
๙. ครูไม่ใช่ผู้ถ่ายทอดความรู้ หรือกำหนดกิจกรรมให้เด็กทำ
แต่เป็นผู้กระตุ้นให้เด็กใช้ภาษาหรือสัญลักษณ์อื่นๆเพื่อจัดระบบความคิด
และสนับสนุนให้เด็กใช้ความรู้ทักษะที่มีอยู่คิดแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
วัตถุประสงค์ของการสอนแบบโครงการ
รูปแบบการเรียนการสอนนี้พัฒนาขึ้นเพื่อ
๑. พัฒนาทักษะการคิดของเด็ก
๒. พัฒนาทักษะการลงมือปฏิบัติของเด็ก
๓. พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาของเด็ก
๔. เสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของเด็กวัย
วิธีการเรียนการสอน
การเรียนการสอนแบบโครงการ
เป็นการสอนที่ให้เด็กศึกษาอย่างลุ่มลึกตามความสนใจของนักเรียน
โดยแต่ละหัวข้อที่ให้เด็กศึกษาอาจใช้เวลาตั้งแต่ 1 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งแล้วแต่หัวข้อที่จะศึกษามีความลุ่มลึกมากน้อยเพียงไร
กระบวนการจัดการเรียนการสอนมีดังนี้
๑. เลือกหัวข้อที่จะเรียน
โดยให้นักเรียนเลือกตามความต้องการและสนใจในเรื่องที่ศึกษาจากสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ จริงที่อยู่รอบตัวเด็ก
๒. สร้างหัวข้อย่อยที่จะศึกษา
โดยทำแผนผังทิศทาง ในขณะเดียวกันครูและเด็กช่วยกันตั้งคำถามที่ต้องการค้นคว้า
วิธีการที่จะใช้หาคำตอบ และวิธีการเสนอคำตอบ
๓. ลงมือทำกิจกรรมตามแผนผังทิศทางที่ได้วางไว้ซึ่งบูรณาการเนื้อหาและกิจกรรมไว้ด้วยกัน
๔. ปฏิบัติตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
๕. รวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินผลความก้าวหน้าของเรื่องที่เรียน
๖. สรุปและประมวลผล
ตัดสินหารูปแบบการนำเสนอผลงาน
ซึ่งอาจจะเป็นการวาดภาพระบายสีหรือการแสดงละครบทบาทสมมติ
บทบาทครูในการสอนแบบโครงการ
๑.
ครูประยุกต์ใช้ความรู้ความสามารถทักษะที่มีอยู่
และใช้แรงจูงใจที่มีภายในตัวเด็กเอง
๒.
ครูเป็นผู้แนะนำเด็กในการทำงานตามความต้องการและความสนใจของเด็ก
๓.
ครูให้เด็กเป็นผู้เลือกทำกิจกรรมที่จะเรียน
๔.
ครูเป็นเพียงผู้กระตุ้นให้เด็กพัฒนาในบางจุดที่ยังด้อยอยู่
๕.
ครูเป็นผู้สร้างให้เด็กได้เกิดการเรียนรู้
และมีผลสำเร็จทางการเรียนที่ดี
ขณะที่สอนแบบโครงการทั้งครูและเด็กร่วมกันสร้างการเรียนรู้และผลสำเร็จทางการเรียน